ในยุคที่หนังแอ็กชันถูกผลิตออกมานับไม่ถ้วน Fight or Flight (2025) กลับกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่สามารถแทรกตัวเข้ามาอยู่ในกระแสความนิยมได้อย่างสง่างาม ด้วยสูตรสำเร็จที่ปรุงแต่งมาอย่างพอดีระหว่างความมันส์ ความตลก และความบ้าระห่ำแบบไม่ต้องหาข้ออ้างใดๆ ให้กับความเวอร์ของมัน ดูหนัง เรื่องนี้ที่ได้กำกับอย่าง เจมส์ มาดิแกน ผู้มีประสบการณ์ด้านแอ็กชันจากงานสตั๊นต์และวิชวลเอฟเฟกต์มาก่อน และเขียนบทโดย บรู๊คส์ แม็คลาเรน และ ดีเจ โคโทรน่า
นักแสดง/นำแสดงโดย
- จอช ฮาร์ตเน็ตต์ รับบทเป็น ลูคัส เรเยส
- ชาริทรา จันทราน รับบทเป็น อิชา
- จูเลียน คอสตอฟ รับบทเป็น แอรอน ฮันเตอร์
- เคธี่ แซ็กฮอฟฟ์ รับบทเป็น แคเธอรีน
- มาร์โก้ ซารอร์ รับบทเป็น ชาเยนน์
- รีเบคก้า จอห์นสตัน รับบทเป็น รีเบคก้า

อ่านเรื่องย่อของ Fight or Flight (2025)
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อ ลูคัส เรเยส อดีตสายลับของรัฐบาลสหรัฐฯ ผู้เคยโดนเนรเทศและถูกมองว่าเป็นบุคคลอันตราย ได้รับข้อเสนอสุดท้ายเพื่อกู้ชื่อเสียงกลับคืน นั่นคือการแทรกซึมขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ – ซานฟรานซิสโก เพื่อระบุตัวและจับกุม อิชา ผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งระดับนานาชาติ แต่ปัญหาคือ เที่ยวบินลำนี้ไม่ได้ธรรมดา มันคือ “สนามรบลอยฟ้า” ที่รวบรวมนักฆ่าจากทุกมุมโลก ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับภารกิจเดียวกันคือ ฆ่าผู้โดยสารเป้าหมายให้ได้ก่อนเครื่องลง

เมื่อลูคัส เผชิญหน้ากับอิชา เขากลับพบว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นอาชญากรเลือดเย็นอย่างที่ทางการกล่าวหา แต่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่ถูกหักหลังและถูกตั้งค่าให้เป็นแพะรับบาป ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงบนเครื่องบิน พวกเขาต้องร่วมมือกันต้านศัตรูจากทุกทิศทาง ทั้งมือสังหารแบบเดี่ยว นักสู้คาราเต้ติดอาวุธ และแม้กระทั่งสายลับคู่แข่งจากชาติอื่น
ดูหนัง รีวิวหนัง Fight or Flight (2025)
หากคุณเป็นแฟนหนังแนว John Wick หรือ Bullet Train คุณจะรู้สึกคุ้นเคยกับจังหวะการเล่าเรื่องที่รวดเร็ว บทพูดที่มีลูกล่อลูกชน และฉากแอ็คชั่นที่ใช้ทุกสิ่งรอบตัวเป็นอาวุธได้หมด ซึ่ง Fight or Flight (2025) ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ฉากต่อสู้บนเครื่องบินถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถเข็นอาหาร พนักงานต้อนรับ หรือแม้กระทั่งห้องน้ำลอยฟ้าให้กลายเป็นเวทีสังหารที่สะใจ ผู้กำกับ เจมส์ มาดิแกน ไม่เพียงถ่ายทอดฉากต่อสู้ด้วยมุมกล้องเฉียบคม แต่ยังกล้าที่จะใส่อารมณ์ขันลงในฉากรุนแรงแบบไม่กลัวโดนด่า ทำให้ทุกฉากแอ็กชันดูสนุกมากกว่าจะเครียด ต้องยอมรับว่า จอช ฮาร์ตเน็ตต์ คือหัวใจของหนังเรื่องนี้ การแสดงของเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ผสมความห้าว ความเซอร์ และความสิ้นหวังอย่างมีชั้นเชิง ตัวละคร ลูคัส เรเยส อาจดูเป็นคนที่แค่บังเอิญขึ้นผิดลำ แต่การที่เขาค่อยๆ เปิดเผยทักษะสายลับทีละนิด ทำให้คนดูไม่อาจละสายตาได้แม้แต่วินาทีเดียว

ฮาร์ตเน็ตต์สามารถทำให้คนดูเชื่อว่าเขาคืออดีตสายลับที่แม้จะหมดไฟไปแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น เขาสามารถกลับมาติดเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการต่อสู้มือเปล่า ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ และการเล่นมุกขำๆ เพื่อเบรกความตึงเครียดของฉากต่างๆ แม้การ ดูหนัง เรื่องนี้ที่เต็มไปด้วยฉากมันส์และพลังดารานำ แต่ต้องยอมรับว่าบทภาพยนตร์ของ Fight or Flight นั้นไม่ได้โดดเด่นนัก เส้นเรื่องหลักค่อนข้างเรียบง่าย ตัวร้ายบางคนก็เหมือนจะโผล่มาเพื่อโดนฆ่าเท่านั้น ไม่มีมิติหรือแรงจูงใจที่ชัดเจนพอจะทำให้รู้สึกอินกับภารกิจของพวกเขา แอ็กชันถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ในพื้นที่แคบ และการเคลื่อนไหวที่ดิบ สมจริง ไม่เว่อร์เกินพอดี แม้บทจะไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก แต่ความแข็งแรงของจังหวะเล่าเรื่องและการพัฒนาอารมณ์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกร่วมได้อย่างต่อเนื่อง
Leave a Reply