รีวิว Mission: Impossible – The Final Reckoning 

กว่า 30 ปีที่ Mission: Impossible ได้เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์แอ็คชั่นสายลับระดับโลกที่ยังคงรักษาความสด ความระทึก และมาตรฐานงานสร้างไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และในภาคล่าสุด Mission: Impossible – The Final Reckoning มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ (2025) ผู้ชมจะได้พบกับบทสรุปของมหากาพย์ที่พาเราโลดแล่นผ่านภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ทั่วโลกอย่างที่เคย ดูหนัง ภารกิจก่อนๆ ที่ผ่านมาอีกครั้ง ด้วยความเข้มข้นทางอารมณ์และความทะเยอทะยานทางเทคนิคที่ผลักขอบเขตของหนังสายลับไปอีกขั้น กำกับโดย คริสโตเฟอร์ แม็คควอรี จากบทภาพยนตร์ที่เขาร่วมเขียนกับ เอริค เจนเดรเซ่น ภาคต่อของ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One (2023) เป็นภาคที่แปดและภาคสุดท้าย ในภาพยนตร์ชุด Mission : Impossible 

นักแสดง/นำแสดงโดย

• ทอม ครูซ รับบทเป็น อีธาน ฮันท์
• เฮลีย์ แอตเวลล์ รับบทเป็น เกรซ
• วิง ราห์มส์ รับบทเป็น ลูเธอร์ สติกเคลล์
• ไซมอน เพ็กก์ รับบทเป็นเบนจี้
• เอไซ โมราเลส รับบทเป็น กาเบรียล
• ปอม เคลเมนเทียฟ รับบทเป็น ปารีส
• แองเจลา บาสเซตต์ รับบทเป็น เอริกา
• เกร็ก ทาร์ซาน เดวิส รับบทเป็น เดกาส

อ่านเรื่องย่อของ Mission: Impossible – The Final Reckoning มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ 

เรื่องราวต่อจากหลังเหตุการณ์ใน Dead Reckoning Part One อีธานและทีม IMF รวมถึงเกรซ ต้องตามล่าหาโมดูลหลักของเอนทิตี้ ซึ่งถูกซ่อนอยู่ในซากเรือดำน้ำรัสเซียชื่อ Sevastopol ที่จมอยู่ใต้ทะเลลึก โมดูลนี้คือ “ตีนกระต่าย” ซึ่งเคยปรากฏในภาคที่สาม และเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมเอนทิตี้

ในขณะเดียวกัน กาเบรียล อดีตสายลับที่เคยร่วมงานกับเอนทิตี้ ได้หักหลังและต้องการใช้โมดูลนี้เพื่อควบคุมเอนทิตี้ด้วยตนเอง เขาวางแผนให้เกิดการระเบิดนิวเคลียร์ในลอนดอนเพื่อบีบให้อีธานยอมมอบโมดูลให้ ลูเธอร์ สติกเคล ได้พัฒนาไวรัสชื่อ “Poison Pill” เพื่อทำลายเอนทิตี้ แต่กาเบรียลได้ขโมยไวรัสนี้ไป อีธานต้องเผชิญกับภารกิจที่เป็นไปไม่ได้อีกครั้ง กู้คืนโมดูลและไวรัส เพื่อหยุดยั้งเอนทิตี้ ก่อนที่มันจะเข้าควบคุมระบบดิจิทัลทั่วโลก 

ดูหนัง รีวิวหนัง Mission: Impossible – The Final Reckoning มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ 

บทหนังของภาคนี้ยังคงเป็นไปตามโครงสร้างสูตรสำเร็จของแฟรนไชส์ Mission: Impossible ที่เน้น ภารกิจที่ดูเป็นไปไม่ได้ และการหักมุมหลอกซ้ำซ้อน เท่าที่ ดูหนัง ในแฟรนไชส์นี้มาสิ่งที่โดดเด่นกว่าภาคก่อนคือการเพิ่มมิติให้กับตัวละครอีธาน ฮันต์ และทีม IMF ด้วยบทสนทนาที่ชัดเจนว่าเดิมพันครั้งนี้ไม่ใช่แค่โลก แต่คือใจและความเชื่อส่วนลึกของเขา Mission: Impossible – The Final Reckoning มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ โทนเรื่องมีความเข้มข้น ดราม่าหนักขึ้น ใช้ความกดดันเชิงจิตวิทยามาเสริมฉากแอ็คชั่นได้อย่างมีชั้นเชิง คริสโตเฟอร์ แม็คควอรี กำกับด้วยความมั่นใจ สไตล์เฉียบและเฉียบคม เขาสามารถบาลานซ์ระหว่างฉากแอ็คชั่นมหึมา กับฉากดราม่าเงียบได้อย่างลงตัว เป็นการเดินทางที่ทั้งตื่นเต้นและสะเทือนใจ โดยเลือกมุมกล้องและจังหวะตัดต่อที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในภารกิจเดียวกับตัวละคร ฉากแอ็กชันในภาคนี้คือ ศิลปะที่ผสมผสานเทคนิคจริงและการออกแบบที่ใกล้เคียงความเป็นไปไม่ได้ที่สุดเท่าที่แฟรนไชส์นี้เคยมีมา ไม่ว่าจะเป็นฉากขับรถในเมืองยุโรป ฉากปีนหน้าผา หรือการหลบหลีกบนขบวนรถไฟ ทุกฉากถูกถ่ายทำจริงแบบ เรียกได้ว่าเล่นจริง เจ็บจริง โดยมี CGI ใช้เท่าที่จำเป็น