รีวิว Final Destination: Bloodlines ไฟนอล เดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย 

หลังจากห่างหายไปจากจอภาพยนตร์นานเกือบสิบปี แฟรนไชส์สยองขวัญที่หลายคนผูกพันอย่าง Final Destination ก็กลับมาอีกครั้งในภาคล่าสุด Final Destination: Bloodlines ไฟนอล เดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย กับแนวคิดที่พาเรื่องราวย้อนกลับไปสำรวจรากเหง้าแห่งโชคชะตา และเปิดประเด็นใหม่เกี่ยวกับสายเลือดของผู้ที่เคยโกงความตายได้สำเร็จในอดีต ดูหนัง ที่ทั้งระทึก ลุ้นระเบิดใจ กำกับโดย แซ็ค ลิโปฟสกี้ และอดัม สไตน์ และเขียนบทโดย กาย บูซิก และลอรี อีแวนส์ เทย์เลอร์ โดยอิงจากเรื่องราวที่พัฒนาโดยพวกเขาและ Jon Watts เป็นภาคที่ 6 ของซีรีส์ภาพยนตร์ Final Destination ต่อจาก Final Destination 5 (2011) นำเอาความสยองแบบดั้งเดิมกลับมาผสมผสานกับแนวคิดใหม่ที่ชวนฉุกคิดและลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเล่าเรื่องในภาคนี้ขยายขอบเขตของพลังงานความตายให้ไม่จำกัดแค่ตัวบุคคล แต่ย้อนรอยไปถึงความเชื่อมโยงของสายเลือดและบาปกรรมที่อาจถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

นักแสดง/นำแสดงโดย

• คาร์ทลิน ซานตา ฮวนนา รับบทเป็น สเตฟานี เรเยส
• เตโอ บริโอเนส รับบทเป็น ชาร์ลี เรเยส
• ริชาร์ด ฮาร์มอน รับบทเป็น เอริก แคมป์เบลล์
• โอเวน แพทริก จอยเนอร์ รับบทเป็น บ็อบบี้ แคมป์เบลล์
• ไรอา คิห์ลสเตดท์ รับบทเป็น ดาร์ลีน แคมป์เบลล์
• แอนนา ลอร์ รับบทเป็น จูเลีย แคมป์เบลล์
• กาเบรียล โรส รับบทเป็น ไอริส แคมป์เบลล์
• โทนี่ ท็อดด์ รับบทเป็น วิลเลียม บลัดเวิร์ธ

อ่านเรื่องย่อของ Final Destination: Bloodlines ไฟนอล เดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย

เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1968 ที่ร้านอาหาร Skyview Tower ซึ่งตั้งอยู่บนหอคอยสูงระฟ้า ไอริส แคมป์เบลล์  ได้รับนิมิตถึงการพังทลายของหอคอยจากการที่เด็กคนหนึ่งโยนเหรียญลงมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ลูกโซ่ที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม ไอริสเตือนผู้คนและช่วยชีวิตหลายคนไว้ รวมถึงตัวเธอเองและวิลเลียม บลัดเวิร์ธ

ตัดมาที่ปัจจุบัน สเตฟานี เรเยส นักศึกษาวิทยาลัย เริ่มมีฝันร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต เมื่อเธอสืบค้นพบว่าเธอเป็นหลานสาวของไอริส และครอบครัวของเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจาก “ความตาย” ที่ต้องการแก้ไขความผิดพลาดในอดีต สเตฟานีพยายามเตือนสมาชิกในครอบครัว แต่กลับถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มเกิดขึ้นจริง สมาชิกในครอบครัวเสียชีวิตทีละคนในลำดับที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ในอดีต สเตฟานี พบกับบลัดเวิร์ธ ซึ่งเปิดเผยว่าเขาและไอริส เคยพยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงความตาย โดยวิธีหนึ่งคือการตาย และถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่

ดูหนัง รีวิวหนัง Final Destination: Bloodlines ไฟนอล เดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย

ภาคนี้ถือเป็นการสานต่อจักรวาล Final Destination อย่างมีชั้นเชิง โดยเล่าเรื่องผ่านทายาทของหนึ่งในผู้ที่เคยโกงความตายจากภาคก่อนหน้า นำเสนอแนวคิดใหม่ว่าโชคชะตาอาจไม่ได้จบเพียงแค่ตัวบุคคล แต่ฝังรากลึกไปถึงพันธุกรรมและความผิดพลาดของคนรุ่นก่อน แม้โครงสร้างเรื่องยังคงสูตรสำเร็จ (รอดจากเหตุการณ์ใหญ่, ตามด้วยการตายทีละคน) แต่การใส่ปริศนาเรื่องสายเลือด และความพยายามเปิดเผยกลไกของพลังงานความตาย ก็ทำให้ Final Destination: Bloodlines ไฟนอล เดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย น่าสนใจและแตกต่างจากภาคก่อนๆ แซ็ค ลิปสกี้ สามารถคุมโทนของแฟรนไชส์ไว้ได้ดี ทั้งความระทึก ความกลัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และมุกเสียดสีความตายที่ยังคงเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ ดูหนัง ที่ใส่ความละเอียดในการออกแบบฉากตายยังคงจัดเต็มแบบขำไม่ออก และนั่งไม่ติดเบาะ โทนโดยรวมมีความจริงจังขึ้นเล็กน้อยจากภาคก่อน ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่ลึกขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งความบันเทิงในแบบที่แฟน ๆ คาดหวัง