หนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยาจากค่าย StudioCanal ที่จะพาผู้ชมดำดิ่งสู่ความลับของความตาย ผ่านเรื่องราวของหญิงสาวที่ได้รับมรดกจากพ่อซึ่งเพิ่งเสียชีวิต เป็นผับเก่าโทรมที่ซ่อนบางสิ่งไว้ในห้องใต้ดิน สิ่งที่ผู้คนเรียกมันว่า “Baghead” ซึ่งได้นำมาตั้งชื่อเป็นหนัง Baghead ผีสิงผี ผลงานการกำกับของ อัลแบร์โต คอร์เรดอร์ ซึ่งพัฒนาโปรเจกต์จากหนังสั้นชื่อเดียวกันของเขาในปี 2017 โดยขยายความลึกลับให้เข้มข้นและน่าติดตามยิ่งขึ้น เขีบนบทโดย คริสติน่า พามีส์, ไบรซ์ แม็กไกวร์ ลอร์ และแคน ไรลีย์ ดูหนัง ที่ดำเนินเรื่องด้วยบรรยากาศหม่นหมอง บีบคั้น และเต็มไปด้วยคำถามที่เกี่ยวพันกับความตาย ความสูญเสีย และการเยียวยาจิตใจของมนุษย์ผ่านการติดต่อกับวิญญาณ
นักแสดง/นำแสดงโดย
- เฟรย่า อัลลัน รับบทเป็น ไอริส ลาร์ค
- ปีเตอร์ มัลแลน รับบทเป็น โอเวน ลาร์ค
- แอนน์ มุลเลอร์ รับบทเป็น แบ็กเฮด
- รูบี้ บาร์เกอร์รับบทเป็น เคธี่
- เจเรมี่ เออร์ไวน์รับบทเป็น นีล
- จูลิกา เจนกินส์ รับบทเป็น เรจิน่า

อ่านเรื่องย่อของ Baghead ผีสิงผี
ไอริส ลาร์ค หญิงสาววัยรุ่นที่ได้รับมรดกเป็นผับเก่าแก่ในกรุงเบอร์ลิน หลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตอย่างลึกลับ ไอริสตัดสินใจเดินทางมาที่ผับนี้เพื่อจัดการทรัพย์สินและทำความเข้าใจอดีตของครอบครัว ในผับนั้น ไอริสพบกับความลึกลับของห้องใต้ดิน ซึ่งเป็นที่ซ่อนของสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เรียกว่า “Baghead” สิ่งมีชีวิตนี้สามารถแปลงร่างเป็นใครก็ได้ที่เคยเสียชีวิตไปแล้ว และสามารถพูดคุยกับคนเป็นได้ โดยมอบโอกาสให้ผู้คนได้สื่อสารกับคนที่จากไป เพื่อแก้ปมในใจหรือขอคำตอบบางอย่าง

ไอริสและเพื่อนสนิท เคที่ รวมถึงชายหนุ่มที่ชื่อ นีล ซึ่งต้องการติดต่อกับภรรยาที่เสียชีวิตของเขา ได้รวมตัวกันเพื่อทดลองพูดคุยกับผีผ่านแบ็กเฮด แต่พวกเขาได้รับคำเตือนว่าการพูดคุยต้องใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาที เพราะหากเกินเวลานี้ แบ็กเฮดจะมีพลังเพิ่มขึ้นและกลายเป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะที่พวกเขาพยายามเข้าใจแบ็กเฮด และใช้มันเพื่อติดต่อกับคนที่รักที่จากไป เรื่องราวเริ่มซับซ้อนขึ้นเมื่อแบ็กเฮด เริ่มแสดงพฤติกรรมรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ ไอริสกับกลุ่มเพื่อนต้องหาวิธีหยุดยั้ง แบ็กเฮด ก่อนที่มันจะทำลายพวกเขาและผับเก่าที่เป็นมรดกของครอบครัว

ดูหนัง รีวิวหนัง Baghead ผีสิงผี
จุดแข็งหลักของ Baghead ผีสิงผี คือคอนเซปต์ การที่มีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติซึ่งสามารถอัญเชิญวิญญาณของคนตายมาเข้าร่างเพื่อพูดคุยกับคนเป็นได้ นำไปสู่ประเด็นที่น่าสนใจเรื่องการเผชิญหน้ากับอดีต ความสูญเสีย และบาปกรรม อย่างไรก็ตาม การขยายพล็อตจากหนังสั้นไปเป็นหนังยาวอาจยังไม่ลื่นไหลนัก ดูหนัง แล้วอาจจะรู้สึกว่ามีช่วงที่ดำเนินเรื่องช้าและวนซ้ำในช่วงกลาง ขณะที่ประเด็นลึกอย่างความเศร้าและความผิดในใจตัวละครถูกแตะเพียงผิวเผิน อีกทั้งตัวละครหลายตัวดูถูกใช้เพียงเป็นเครื่องมือพาเรื่องเดิน โดยเฉพาะตัวละครรองที่ไม่มีมิติหรือพัฒนาให้คนดูรู้สึกอิน ผู้กำกับ อัลแบร์โต คอร์เรดอร์ มีสายตาที่เฉียบในการสร้างบรรยากาศความน่ากลัวแบบกดดัน ไม่พึ่งพา jumpscare แบบพร่ำเพรื่อ แต่เลือกใช้เสียง ลำดับภาพ และองค์ประกอบฉากเพื่อสร้างความรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งถือว่าได้ผลดีในหลายฉาก แต่การควบคุมจังหวะหนังในภาพรวมยังไม่แน่นพอ หลายช่วงรู้สึกเนือยโดยไม่จำเป็น และความกลัวที่ควรจะค่อย ๆ สะสม กลับหายไปเมื่อเนื้อเรื่องถูกตัดสลับกับฉากที่ไม่จำเป็นหรือบทสนทนาที่ยืดยาวเกินจำเป็น เฟรย่า อัลลัน ในบท ไอริส แบกหนังไว้ได้ดีพอสมควร เธอแสดงอารมณ์ภายในได้อย่างแนบเนียน ทั้งความกลัว ความสับสน และความปวดร้าวจากอดีต แม้บทจะไม่ได้ให้พื้นที่ลึกมากนัก แต่เธอก็พยายามใส่ความจริงใจในทุกซีน
Leave a Reply