หากคุณคิดว่าความสยองขวัญคือการได้ยินเสียงกรีดร้องหรือเห็นเงาผีในความมืด Bring Her Back เรียกมันกลับมาหลอน จะสะกดคุณให้อยู่กับความหลอนที่ยากจะหลุดพ้น มันคือหนังที่นำเสนอความวิปริตของมนุษย์ผ่านเลนส์ของบ้านที่ควรปลอดภัยที่สุด แต่กลับกลายเป็นกับดักเยือกเย็นสุดหลอน กำกับโดยสองพี่น้องจากชาติออสเตรเลีย แดนนี และ ไมเคิล ฟิลิปโป ผู้เคยสร้างชื่อจาก Talk to Me ในครั้งนี้พวกเขาจะพาเราให้ ดูหนัง ในบรรยากาศเข้าสู่บ้านหลังใหม่ที่โอบล้อมด้วยความเศร้า เมื่อพี่น้องที่กลายเป็นกำพร้า ต้องใช้ชีวิตอยู่กับลอร่า ผู้ดูอบอุ่นแต่แฝงด้วยความบิดเบี้ยวทางจิต แล้วเข้าสู่โลกของพิธีกรรมรอบบ้าน ที่ไม่ควรออกจากความสงสัยไปได้แม้แต่ก้าวเดียว
นักแสดง/นำแสดงโดย
- บิลลี่ บาร์รัตต์ รับบทเป็น แอนดี้
- โซระ หว่อง รับบทเป็น ไพเพอร์
- แซลลี่ ฮอว์กินส์ รับบทเป็น ลอร่า
- โจนาห์ เรน ฟิลลิปส์ รับบทเป็น โอลิเวอร์
- แซลลี่-แอนน์ อัพตัน รับบทเป็น เวนดี้
- มิชา เฮย์วูด รับบทเป็น แคธี่

อ่านเรื่องย่อของ Bring Her Back เรียกมันกลับมาหลอน
เมื่อพ่อของ แอนดี้ เสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาและน้องสาวตาบอดบางส่วน ไพเพอร์ ถูกส่งไปอยู่กับ ลอร่า ผู้หญิงที่เสนอตัวรับช่วงเลี้ยงเด็ก แต่เบื้องหลังความอ่อนโยนกลับเต็มไปด้วยความเศร้าและเจตนาซ่อนเร้น ในบ้านหลังนั้น มีโอลิเวอร์ เด็กชายแปลกประหลาด ซึ่ง ลอร่าอ้างว่าเป็นหลาน แต่แอนดี้สังเกตเห็นความผิดปกติ รอยแผลใต้ตาเหมือนเด็กในวิดีโอลึกลับ และพฤติกรรมที่สะท้อนถึงพิธีกรรมโบราณที่ล้มเหลวเกี่ยวกับการคืนชีพลูกสาวเธอเอง แคธี ผู้เสียชีวิตไปแล้วด้วยการจมน้ำในสระ

เมื่อแอนดี้เริ่มสืบความจริง เขาพบว่าลอร่าใช้พิธีกรรมโหดเพื่อยัดวิญญาณของลูกเข้าในร่างใหม่ และกำลังใช้ไพเพอร์เป็นภาชนะ แผนการดำเนินไปถึงขั้นสุดโหด ลอร่าสังหารแอนดี้ และพยายามฆ่าไพเพอร์เพื่อสำเร็จพิธี ศีลธรรมและความรักกลายเป็นแรงขับเคลื่อนของความบ้าคลั่ง

ดูหนัง รีวิวหนัง Bring Her Back เรียกมันกลับมาหลอน
ผู้กำกับสองพี่น้อง แดนนี และ ไมเคิล ฟิลิปโป ที่สร้างชื่อจาก Talk to Me (2022) ยังคงโชว์ลายเซ็นเด่นชัดใน Bring Her Back เรียกมันกลับมาหลอน การเล่าเรื่องยังคงเล่นกับความสูญเสีย และความเจ็บปวด แต่ขยายไปสู่การสำรวจด้านมืดของมนุษย์มากกว่าแค่การหลอนแบบผี ๆ ผลลัพธ์คือหนังที่ไม่ได้จงใจทำให้ตกใจด้วย jump scare มากนัก แต่สร้างบรรยากาศกดดันให้คนดูหายใจไม่ทั่วท้องแทบตลอดเรื่อง แซลลี่ ฮอว์กินส์ รับบท “ลอรา” ผู้ดูเป็นแม่เลี้ยงแสนใจดีแต่กลับซ่อนปริศนา ความลึกลับในสายตาและความอบอุ่นที่บิดเบี้ยว ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่ทั้งน่าสงสารและน่าสะพรึง เด็กนักแสดงที่เล่นเป็นพี่น้องกำพร้า ถ่ายทอดความกลัว ความสับสน และความหวังเล็ก ๆ ได้อย่างสมจริง ช่วยขับเคลื่อนอารมณ์ให้หนักแน่น การจัดแสงและโทนสีหม่นเย็น ทำให้บ้านดูเหมือนสถานที่ต้องสาปตลอดเวลา

มุมกล้องเน้นการบีบคั้นพื้นที่ เช่น โถงทางเดินยาว เงาในห้องมืด ทำให้บ้านที่ควรเป็นที่ปลอดภัยกลับน่าขนลุกและกดดันยิ่งกว่าบ้านผีสิงทั่วไป ในการ ดูหนัง ก็รู้สึกว่าบทไม่เดินเร็ว แต่เน้นการสะสมอารมณ์ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครคือหัวใจหลัก ก่อนจะพาเข้าสู่ช่วงท้ายที่ทั้งช็อกและสะเทือนใจ ความน่าสนใจคือ หนังไม่ได้ถามว่า ผีมีจริงหรือไม่ แต่ถามว่า เราจะยอมทำอะไรเพื่อคนที่เราสูญเสียไป ซาวด์ดีไซน์คือหนึ่งในจุดแข็ง ใช้เสียงกระซิบ เสียงฝีเท้า เสียงพื้นไม้ลั่นที่แทบไม่ได้ดังมาก แต่กลับสร้างแรงกดดันมหาศาล ดนตรีประกอบก็เน้นเสียงต่ำหนัก ๆ คลอไปเรื่อย ๆ เหมือนคอยกดอารมณ์คนดูให้จมลึกลงไปกับความหลอน Bring Her Back คือหนังสยองที่หลอนด้วย “ความรู้สึก” มากกว่าภาพตรงหน้า งานภาพ เสียง และการกำกับเฉียบขาด ทำให้มันไม่ใช่แค่หนังผี แต่คือดราม่าจิตวิทยาที่สะเทือนใจและกดดันสุดขีด เหมาะกับคนที่ชอบสยองขวัญเชิงลึก และไม่กลัวการเจอด้านมืดในใจมนุษย์เอง
Leave a Reply