รีวิว Little Dixie ลิตเติ้ล ดิ๊กซี่ การเมืองใต้ดินที่เชื่อมโยงกับมาเฟีย

เมื่อเกมการเมืองสกปรกมาบรรจบกับโลกอาชญากรรมสุดโหด สิ่งที่เหลืออยู่คือ “สงครามที่ไม่มีผู้ชนะ” Little Dixie ลิตเติ้ล ดิ๊กซี่ (2023) ผลงานกำกับของ จอห์น สวาบ ผู้เชี่ยวชาญในการเล่าเรื่องดาร์ก–อาชญากรรม ที่คราวนี้จับเอาการต่อรองเชิงการเมืองมาโยงเข้ากับกลุ่มค้ายาระดับประเทศ หนังนำแสดงโดย แฟรงค์ กริลโล ดาราสายบู๊ที่การันตีความเข้มข้น กับบท “ด็อก อเล็กซานเดอร์” อดีตหน่วยรบพิเศษที่ต้องตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของนักการเมืองคอรัปชัน, กลุ่มคาร์เทลเม็กซิโก และหน่วยงานรัฐที่เล่นเกมสกปรก เขาจึงกลายเป็นตัวหมากสำคัญในสงครามที่ไม่มีใครไว้ใจใคร ดูหนัง แอ็คชั่นยิงกันเลือดสาด แต่ยังสะท้อนให้เห็นโลกที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ การหักหลัง และการเอาตัวรอด ที่สุดท้ายแล้ว คนธรรมดาอย่างเราต้องตั้งคำถามว่า ใครกันแน่คือศัตรูที่แท้จริง?

นักแสดง/นำแสดงโดย

• แฟรงค์ กริลโล รับบทเป็น ด็อก อเล็กซานเดอร์
• เอริค เดน รับบทเป็น ผู้ว่าการริชาร์ด เจฟส์
• โบ แน็ปป์ รับบทเป็น ราฟาเอล “คูโค” ปราโด
• แอนนาเบธ กิช รับบทเป็น บิลลี่ ริกส์
• ปีเตอร์ กรีน รับบทเป็น คาร์ล โรช
• โทมัส เดกเกอร์ รับบทเป็น คลาร์ก มัวร์
• เมอร์เซเดส เมสัน รับบทเป็น จูลี่ รีด

อ่านเรื่องย่อของ Little Dixie ลิตเติ้ล ดิ๊กซี่

ด็อก อเล็กซานเดอร์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษและอดีตที่ปรึกษาด้านการทูต ที่ปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ร่วมกับลูกสาวตัวน้อยของเขาในโอคลาโฮมา โดยใช้ชื่อเล่นว่า “Little Dixie” ซึ่งเป็นชื่อที่มีความหมายถึงตัวแทนของความบริสุทธิ์และความหวังในชีวิตของเขา

ด็อก เคยมีความเกี่ยวพันกับโลกมืด โดยเป็นตัวกลางระหว่างผู้มีอำนาจทางการเมืองกับแก๊งค้ายาชาวเม็กซิกัน ซึ่งการสมคบนี้อยู่ภายใต้ข้อตกลงอันล่อแหลม อเมริกันจะละเลยธุรกิจผิดกฎหมายของแก๊งค้ายา แลกกับความร่วมมือด้านข้อมูลและเงินทุนลับ แต่เมื่อผู้ว่าการรัฐสั่งลอบสังหารผู้นำแก๊งค้ายาอย่างไม่เปิดเผย ข้อตกลงล่มสลายทันที และแก๊งค้ายาจึงเริ่มเปิดฉากการแก้แค้นแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม โดยมี ด็อก และลูกสาวของเขาเป็นเป้าหมาย

ดูหนัง รีวิวหนัง Little Dixie ลิตเติ้ล ดิ๊กซี่

เปิดเรื่องด้วยการปูความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองที่เต็มไปด้วยการคอรัปชันและคาร์เทลค้ายา ซึ่งมีตัวละครกลางคือ ด็อก (รับบทโดย แฟรงค์ กริลโล) ที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองโลก โลกที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และการใช้อำนาจผิด ๆ ตัวหนังพยายามเล่าให้เห็นว่าการตัดสินใจของคนหนึ่งคนสามารถส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อชีวิตผู้คนจำนวนมาก จุดเด่นคือการนำเสนอเนื้อหาด้วยความดิบ Little Dixie ลิตเติ้ล ดิ๊กซี่ เผยให้เห็นมุมมืดของการเมืองและโลกอาชญากรรมได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ก็มีข้อสังเกตคือการดำเนินเรื่องบางช่วงยืดเกินไป มีฉากพูดคุยที่ซ้ำซ้อน ทำให้พลังของดราม่าลดลง และอาจทำให้ผู้ชมบางกลุ่มที่ ดูหนัง เรื่องนี้อาจจะรู้สึกว่าเรื่องราวไม่กระชับ บทภาพยนตร์ถือว่ามีความจริงจังและพยายามยกประเด็นการเมืองมาผูกกับโลกใต้ดิน มีทั้งฉากเจรจา การหักหลัง และการตัดสินใจที่มีเดิมพันสูง 

ความเข้มข้นจึงไม่ได้อยู่ที่ฉากบู๊อย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่ความสัมพันธ์เชิงอำนาจของตัวละครด้วย ข้อดีคือมีหลายช่วงที่ทำให้คนดูเดาไม่ได้ว่าตัวละครจะไปทางไหน โดยเฉพาะบทของด็อก ที่มีความซับซ้อนทั้งด้านมืดและด้านสว่าง แต่ข้อเสียคือบทสนทนาบางช่วงยืดยาวเกินไป และไม่ได้สร้างแรงกระแทกทางอารมณ์มากพอ John Swab ผู้กำกับ ถ่ายทอดบรรยากาศความโหดและโลกสีเทาได้ชัดเจน การใช้โทนภาพมืดและงานโปรดักชันที่สมจริง ทำให้หนังมีอารมณ์ดิบแบบหนังอินดี้มากกว่าแอ็กชันบล็อกบัสเตอร์ จุดแข็งคือการนำเสนอโลกที่โหดร้ายโดยไม่ปรุงแต่งจนเกินจริง แต่ปัญหาคือ pacing หรือจังหวะการเล่าเรื่องยังไม่สม่ำเสมอ มีบางช่วงที่อืดช้าเกินไป ทำให้ความตึงเครียดตกลงไปบ้าง ภาพถูกถ่ายทอดด้วยโทนหม่นและมืด สะท้อนความมืดของโลกอาชญากรรมและการคอรัปชัน การเลือกมุมกล้องในฉากปะทะทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัด กดดัน และไม่ปลอดภัย ซึ่งเข้ากับธีมหนังได้ดี แต่หากเปรียบกับหนังแก๊งสเตอร์หรือแอ็กชันที่ขึ้นหิ้ง งานภาพของ Little Dixie อาจยังไม่โดดเด่นหรือมีซิกเนเจอร์ชัดเจนพอ