หากพูดถึงหนังที่รวมความมันส์ ดุเดือด และแอ็กชันแฟนตาซีที่มีสีสัน Holy Night : Demon Hunters ฅนต่อยผี ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม หนังเล่าถึงกลุ่มนักล่าปีศาจในเกาหลีใต้ ที่รวมตัวกันเพื่อต่อกรกับพลังชั่วร้ายเหนือธรรมชาติ ดูหนัง ที่มีการผสมผสานระหว่างฉากบู๊สุดมันส์ ดราม่าที่เข้มข้น และมุกตลกที่ช่วยทำให้บรรยากาศไม่เครียดจนเกินไป ความน่าสนใจของหนังอยู่ที่คาแรกเตอร์ของทีมล่าปีศาจแต่ละคน ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ทั้งนักบวช นักสู้ และตัวละครที่มีพลังพิเศษ ซึ่งมารวมทีมกันกลายเป็น “ฮีโร่สายพันธุ์ใหม่” ในสไตล์เกาหลี จุดขายสำคัญคือการเล่าเรื่องที่เล่นใหญ่ สเปเชียลเอฟเฟกต์จัดเต็ม และฉากต่อสู้ที่ทั้งดิบและมันส์ ดูแล้วรับรองว่าได้ทั้งความฮา ความหลอน และความสะใจครบเครื่อง กำกับแและเขียนบทโดย ลิม แดฮี สร้างหนังที่เน้นความบันเทิงแบบจัดเต็ม คนที่ชอบแอ็กชัน แฟนตาซี และทีมฮีโร่แนวเกาหลีคงถูกใจ จุดแข็งคือฉากบู๊และโทนหนังที่มีสีสัน ส่วนข้อด้อยคืองาน CG บางจุดยังไม่สมบูรณ์ และบทที่ไม่ได้ลึกมาก แต่โดยรวมคือหนังที่ดูสนุก ไม่ต้องคิดเยอะ และพร้อมสร้างความมันส์แบบครบเครื่อง
นักแสดง/นำแสดงโดย
- มาดงซอก รับบทเป็น บาอู
- ซอฮยอนรับบทเป็น ชารอน
- ลีเดวิด รับบทเป็น คิมกอน
- คยองซูจิน รับบทเป็น จุงวอน นักประสาทจิตแพทย์
- จองจีโซรับบท อึนซอ

อ่านเรื่องย่อของ Holy Night : Demon Hunters ฅนต่อยผี
เมื่อกรุงโซลตกอยู่ในความโกลาหลจากกลุ่มลัทธิบูชาปีศาจที่กำลังขยายอำนาจอย่างรวดเร็ว ตำรวจไม่สามารถรับมือได้ จึงต้องหันไปพึ่งพาทีมลับที่มีชื่อว่า “Holy Night” ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสามคนที่มีพลังพิเศษในการต่อสู้กับปีศาจ บาอู, แชรอน และคิมกอน สมาชิกที่คอยสนับสนุนและบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ

วันหนึ่ง พวกเขาได้รับการติดต่อจาก จองวอน จิตแพทย์สาวที่ขอความช่วยเหลือในการรักษาน้องสาวของเธอ อึนซู ที่มีอาการผิดปกติอย่างรุนแรง หลังจากการตรวจสอบ พวกเขาพบว่าอึนซูถูกปีศาจสิงสู่ ซึ่งเป็นปีศาจที่มีพลังอำนาจมากกว่าที่พวกเขาเคยเผชิญ ทีม Holy Night ต้องร่วมมือกันเพื่อขับไล่ปีศาจและช่วยเหลืออึนซู ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องเผชิญกับกลุ่มลัทธิบูชาปีศาจที่พยายามขัดขวางพวกเขา การต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด

ดูหนัง รีวิวหนัง Holy Night : Demon Hunters ฅนต่อยผี
โครงเรื่องของ Holy Night : Demon Hunters ฅนต่อยผี ถือว่าชัดเจนในแนวแอ็กชันแฟนตาซี มีการเปิดโลกเหนือธรรมชาติผ่านการล่าปีศาจและพลังพิเศษ ตัวบทอาจไม่ได้ซับซ้อนหรือหักมุมเยอะ แต่ใช้จังหวะการเล่าที่กระชับ เน้นความบันเทิงเป็นหลัก ผสมผสานทั้งความหลอนเล็ก ๆ มุกตลกเบรกความตึงเครียด และดราม่าที่เพิ่มน้ำหนักให้ตัวละคร การเดินเรื่องบางช่วงอาจเร่งไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าเข้าใจง่ายและดูสนุก นักแสดงทำหน้าที่ได้เต็มที่ โดยเฉพาะตัวละครในทีมล่าปีศาจที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ทั้งสายบู๊จริงจัง สายใช้พลังพิเศษ หรือแม้แต่สายฮาที่ทำให้หนังมีสีสัน การแสดงแม้จะไม่ถึงขั้นลึกซึ้งกินใจ แต่ก็ขับเคลื่อนอารมณ์ได้ดี ทำให้ผู้ชมที่ ดูหนัง เรื่องนี้ผูกพันกับตัวละครได้ระดับหนึ่ง จุดแข็งคือการเล่นที่ “เกินจริงพอเหมาะ” เข้ากับโทนหนังแฟนตาซี ผู้กำกับสามารถสร้างโทนที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งการบาลานซ์ความมืดหม่นของปีศาจเข้ากับความสนุกแบบการ์ตูนแอ็กชัน ผลงานจึงออกมาไม่กดดันเกินไป แต่ก็ยังคงความจริงจังในฉากดราม่า จุดเด่นคือการใช้โทนสีจัดจ้านและมุมกล้องที่เล่นใหญ่ เพิ่มอรรถรสความแฟนตาซีได้ดี

ฉากแอ็คชั่นและคิวบู๊ ถือเป็นหัวใจของหนัง แอ็คชั่นทำออกมาได้มันส์ มีทั้งการต่อสู้ประชิดตัว การใช้พลังเหนือธรรมชาติ และฉากบู๊ทีมเวิร์กที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูการ์ตูนที่ถูกยกมาอยู่บนจอใหญ่ บางฉากอาจใช้ CG มากไปหน่อยจนดูหลุด แต่โดยรวมยังถือว่าสร้างความสะใจและไม่ปล่อยให้คนดูเบื่อ งานภาพเล่นใหญ่และหวือหวา ใช้โทนสีเข้มตัดกับแสงไฟแฟนตาซีเพื่อสร้างบรรยากาศเหนือจริง เอฟเฟกต์ปีศาจและพลังพิเศษแม้จะไม่สมบูรณ์แบบทุกจุด แต่ก็มีความสร้างสรรค์และน่าตื่นตา เพียงแต่บางฉากถ้ามองละเอียดจะรู้สึกว่าขาดความเนียนอยู่บ้าง
Leave a Reply