รีวิว Death of a Unicorn (2025) ยูนิคอร์นไม่ใช่สิ่งบริสุทธิ์อีกต่อไป

มีสิ่งหนึ่งที่แสน “มหัศจรรย์แต่แสนอันตราย” รอคอยท่ามกลางป่าและธรรมชาติหยุดหายใจ Death of a Unicorn (2025) คือหนังแนว dark fantasy / comedy horror ที่เอาความเชื่อเรื่องยูนิคอร์นซึ่งมักถูกมองว่าเพียงนิทานหรือตัวแทนความบริสุทธิ์ มาหักมุมสุดขั้ว เมื่อยูนิคอร์นไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตในจินตนาการอีกต่อไป กำกับและเขียนบทโดย อเล็กซ์ ชาร์ฟแมน ในภาพยนตร์เรื่องแรก เขาเลือกให้ พอล รัดด์ และ เจนน่า ออร์เตก้า พ่อกับลูกสาว กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความโลภ ความวิปริตของชนชั้นสูง และผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดคิด หลังจากการชนยูนิคอร์นโดยบังเอิญ สิ่งที่ดูเหมือน “ความผิดพลาดธรรมดา” กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยน ที่ดึงให้พวกเขาเข้าไปในโลกที่ทั้งสวยและเหี้ยมโหด ดูหนัง ที่เปิดฉากในธรรมชาติสวย ๆ กับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาวที่มีอดีตเจ็บปวดร่วมกัน แล้วก็ปล่อยให้ความมหัศจรรย์เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ยูนิคอร์นที่ตายไปกลับไม่เพียงสร้างศักดิ์สิทธิ์ในสายเลือดและตำนาน แต่มันเริ่มกระตุ้นความโลภของมนุษย์: ยากำจัดโรคผิว การเยียวยา และความเป็นอมตะ เมื่อความพยายามเอื้อประโยชน์ทางการค้าและอำนาจเข้ามาไขว่คว้า พวกที่มีเงินมีอำนาจไม่รอช้า คนที่เคารพธรรมชาติหรือศีลธรรมก็ถูกเผาไหม้ในเปลวไฟของความเห็นแก่ตัว

นักแสดง/นำแสดงโดย

• พอล รัดด์ รับบทเป็น เอลเลียต 
• เจนน่า ออร์เตก้า รับบทเป็น ริดลีย์ 
• วิลล์ พูลเตอร์รับบทเป็น เชพเพิร์ด 
• แอนโธนี่ คาร์ริแกน รับบทเป็น กริฟฟ์
• สุนิตา มณี รับบทเป็น ดร.ภาเทีย 
• สตีเฟน พาร์ครับบทเป็น ดร.ซอง 
• เจสสิกา ไฮนส์รับบทเป็น ชอว์

อ่านเรื่องย่อของ Death of a Unicorn (2025) 

เอลเลียต คินท์เนอร์ และริดลีย์ ลูกสาววัยรุ่นของเขา กำลังเดินทางไปยังคฤหาสน์ของเจ้านายมหาเศรษฐี โอเดล ลีโอโปลด์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดสัปดาห์ ระหว่างทาง พวกเขาเผลอขับรถชนลูกยูนิคอร์นเข้าอย่างจัง ริดลีย์สัมผัสเขาของยูนิคอร์นและได้รับนิมิตประหลาด ก่อนที่ เอลเลียตจะตัดสินใจฆ่ายูนิคอร์นด้วยแท่งเหล็กเพื่อยุติความทุกข์ทรมานของมัน

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ พวกเขาซ่อนร่างของยูนิคอร์นไว้ในรถ แต่ไม่นานก็ถูกพบโดย ชอว์ ผู้ช่วยของครอบครัวลีโอโปลด์ ซึ่งยิงยูนิคอร์นทันที หลังจากนั้น ครอบครัวลีโอโปลด์ ค้นพบว่ายูนิคอร์นมีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้อย่างมหัศจรรย์ โดยการขูดเขาของมันมาใช้ในการทดลองทางการแพทย์ ซึ่งสามารถรักษาโรคมะเร็งของโอเดลได้สำเร็จ การกระทำนี้ได้ปลุกความโกรธแค้นของพ่อแม่ยูนิคอร์นที่ออกมาตามล้างแค้น พวกมันเริ่มฆ่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานลูกของพวกมันทีละคน 

ดูหนัง รีวิวหนัง Death of a Unicorn (2025) 

อเล็กซ์ ชาร์ฟแมน ในผลงานกำกับขนาดยาวเรื่องแรก กล้าสร้างสไตล์ที่แตกต่างจากหนังแฟนตาซีทั่วไปอย่างชัดเจน เขาผสมความเหนือจริงเข้ากับเสียดสีทางสังคมได้อย่างลงตัว หนังไม่ได้ขาย “ยูนิคอร์น” ในฐานะสัตว์วิเศษ แต่มองมันเป็นสัญลักษณ์ของความโลภและการทำลายความบริสุทธิ์ของมนุษย์ โทนภาพถูกออกแบบให้เล่นกับความขัดแย้งระหว่าง “ความสวยงามและความตาย” แสงธรรมชาติของป่าเขียวสด ถูกตัดสลับกับโทนหม่น สกปรก และภาพเลือดที่ราวกับหลุดออกมาจากนิทานสยอง ความคมชัดของแสงและเงาถูกใช้เป็นภาษาภาพอย่างมีนัย ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าทุกอย่างสวยงามเกินจริง จนกลายเป็นสิ่งน่ากลัว พอล รัดด์ ในบทพ่อผู้พยายามปกป้องลูกสาว แสดงความอ่อนโยนและสับสนได้อย่างลึกซึ้ง เป็นการพลิกบทบาทจากแนวคอมเมดี้ที่คุ้นเคยมาเป็นตัวละครที่มีบาดแผลทางใจ ส่วน เจนน่า ออร์เตก้า ถ่ายทอดบท ริดลีย์ ได้เข้มข้นและทรงพลัง เธอคือศูนย์กลางของเรื่อง ทั้งในแง่อารมณ์ ความสับสน และการตั้งคำถามถึงศีลธรรมของผู้ใหญ่รอบตัว บทของ อเล็กซ์ ชาร์ฟแมน เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ ยูนิคอร์นในที่นี้ไม่ได้เป็นเพียงสัตว์มหัศจรรย์ แต่คือ “ศีลธรรม” ที่กำลังตายไปจากโลก เมื่อความเชื่อและความโลภเข้ามาแทน Death of a Unicorn (2025)  หนังตั้งคำถามกับสังคมผู้บริโภค วงการเภสัชและทุนใหญ่ที่พร้อมใช้ทุกอย่างเป็นสินค้า แม้แต่ “ชีวิต” ที่มีค่าที่สุด ทีมงานใช้ Practical Effects ผสมกับ CGI อย่างมีสมดุล ยูนิคอร์นถูกออกแบบให้มีทั้งความงดงามและความหลอนจริงจังในเวลาเดียวกัน มันดูมีชีวิตมากพอจะทำให้คนเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ในเวลาเดียวกันกลับน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ฉากแสงไฟสลัวในป่าตอนกลางคืนคือหนึ่งในซีนที่ดีที่สุดของหนัง ทั้งการจัดแสงและการเคลื่อนกล้องให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชมกำลังหลงอยู่ในโลกที่สวยแต่โหด